ทุกคนคงได้รับเมล์ จากชัตเตอร์สต๊อกแล้ว เกี่ยวกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า เรื่องจริงก็คือ ไม่มีใครรู้ครับว่า ไมโครสต๊อก จะมีการปรับเปลี่ยนด้านในบ้าง แต่ก็คงเพิ่มความสะดวกขึ้นทั้งด้านผู้ซื้อและผู้ขายก็ต้องรอดูกันต่อไป หลายคนคงกังวลใจและมีคำถามว่าอนาคตของธุรกิจ ไมโครสต๊อก จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะ Shutterstock การเปลี่ยนแปลงที่จะมีขึ้นจะส่งผลกระทบกับ Contributor อย่างไรบ้าง เพิ่งเริ่มต้นเข้าวงการแท้ ๆ ชักจะเริ่มใจเสียซะแล้ว …..
หลายคนเพิ่งผ่าน 500 เพิ่งผ่าน 3000 มา ด้วยความหวังว่าอาชีพนักขายภาพ จะเป็นอาชีพหลัก ไปเจอข่าวโน้นข่าวนี้บั่นทอนจิตใจให้หวั่นไหว ^^ รับสารมาหลาย ๆ ด้าน เริ่มกังวลและจิตตก คิดว่าอาชีพนี้ถ้าทำแล้วจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า…
ผมมองในมุมของโลกแห่งความเป็นจริง ไม่เน้นโลกสวยนะครับ แต่ก็ไม่ได้มองในแง่ร้าย ทุกอย่างมีสองด้านเสมอครับ อยู่ที่เราจะเลือกมองด้านไหน ขึ้นอยู่กับตัวเรานี่ล่ะครับ เรื่องการตลาดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเรื่อง คนมาทำงานนี้มากขึ้น (แต่อย่าลืมว่าหายไปก็ไม่น้อยนะครับ) จำนวนภาพก็มากขึ้น ปัญหา demand & supply ก็ล้วนพูดกันมาตั้งแต่ผมเข้าวงการใหม่ ตอนนี้ก็ยังพูดกันอยู่ สุดท้ายก็อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกทำต่อหรือไม่ก็เท่านั้นเอง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ยังมีคนประสบความสำเร็จให้เราเห็นอยู่มากมายหลายคน บางคนก็เพิ่งเริ่มเข้าวงการด้วยซ้ำ …..ใช่มั้ยครับ (อ้าว! แล้วคนที่ไม่สำเร็จล่ะ) ผมไม่ได้บอกว่าไม่มี ทุกอาชีพมีคนประสบความสำเร็จและลัมเหลวกันทั้งนั้น
ผ่านไป 5 เดือน
เมื่อครบ $500 คนที่ไม่สนใจในตอนแรกเริ่มมีความสนใจสอบถามมากขึ้น แต่ยังลังเลรอดูท่าทีก่อน
ผ่านไปอีก 7 เดือน
เมื่อผมทำยอดครบ $3000 คนที่รอดูท่าทีในตอนแรกก็เริ่มออกสตาร์ทมากขึ้น เพราะเห็นความสำเร็จจากคนอื่นด้วยว่าเริ่มมีรายได้ต่อเดือนอย่างเป็นรูปธรรม แต่อีกหลายคน…….ยังไม่ได้เริ่ม
ผ่านไปอีก 1 ปี
เมื่อผมถึง $10000 เริ่มเข้ามาถามกันเกือบทุกวัน คนที่เริ่มออกสตาร์ท ตอนที่ผมทำไปแล้ว 2 ปี หลายคนก็อยู่ที่ $500 บ้าง $3000 บ้าง เรียกว่ากำลังสร้างพอร์ทอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่คนที่ยังดูท่าทีอยู่ก็จะคิดว่า เขาเริ่มกันไปเยอะแล้ว เราไปทีหลังคงไม่ได้หรอก หัวแถวกินเรียบ
ผ่านไป 3 ปี ผมก็เห็นว่ามีหลายคนที่ไม่ได้ทิ้งโอกาสให้ผ่านไปในตอนแรก เริ่มมีความสำเร็จให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ (บางคนเริ่มที่หลังแต่แซงหน้าผมไปด้วยซ้ำ) ส่วนคนที่ไม่ยอมสตาร์ทในตอนแรก เริ่มเสียดาย ……ก็นั่นล่ะครับสุดท้ายก็จะพูดว่า “รู้อย่างนี้ทำไปตั้งนานแล้ว” ดังนั้น ถ้าคุณตัดสินใจลงสนามและเริ่มต้นในตอนนี้ อย่ามัวไปคิดครับว่า คนเยอะแล้วจะตามเขาทันไหม เวลาและโอกาสมันมีอยู่เสมอครับ ถ้าเราเริ่มเดินแล้ว จะตามใครทันหรือไม่ทัน ก็ยังดีกว่ายืนอยู่ที่เดิมครับ ตัวอย่างมีให้เห็นมากมายหลายคน บางคนเพิ่งเริ่มทำได้ไม่กี่เดือนรายได้ก็ก้าวกระโดดจาก $100 ไป $500 ในเวลาไม่กี่เดือนก็มี
อีก 3 ปี ข้างหน้าต่อจากนี้ ถ้าคุณเห็นว่าก็ยังมีคนสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณจะเสียดายเวลาที่ผ่านไปหรือเปล่า และก็จะต้องมาบอกอีกว่า รู้แบบนี้ ทำมาตั้งนานแล้ว ไม่น่าทิ้งไปเลย……….
ผมลองเข้าไปดูสถานะทางการเงินของ Shutterstock ในเว็บไซต์ NYSE (New York Stock Exchange) ก็เห็นว่าผลประกอบการของ SS ยังมีการขยายตัวและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ รายได้ของ SS เพิ่มขึ้นทุกปี แม้สัดส่วนกำไรจะลดลงบ้าง แต่ดูแล้วสาเหตุเพราะการลงทุนเพิ่มมากขึ้น มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ค่าตอบแทนผู้บริหาร ค่าวิจัยระบบ อะไรต่าง ๆ Cash flow ยังเยอะ ก็เท่ากับว่ามีสภาพคล่องที่ดี ซึ่งผมมองว่า นี่คือการขยายตัวขององค์กรครับ
ใครที่มีความชำนาญในด้านนี้ก็ลองเข้าไปดูข้อมูลด้วยตนเองได้ครับ (ล่าสุดมีถึงปี 2014 นะครับ ปี 2015 น่าจะรอสักพักถึงจะมีข้อมูลแสดง) ความเห็นส่วนตัวของผมมองว่า ธุรกิจนี้ได้ขยายตัวมากกว่าเดิมในทุก ๆ ปี
ความต้องการของผู้ซื้อยังมีอยู่และเพิ่มขึ้น ในแง่ผู้ขายนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่า เมื่อความต้องการของผู้ซื้อมีมาก ผู้ขายก็ต้องหาสินค้ามาให้ลูกค้าได้เลือกมากขึ้น ผู้รับจ้างผลิตสินค้าอย่างเราก็ต้องทำงานหนักขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาครับ และผมก็ยังเชื่ออยู่เสมอว่าตราบใดที่เรา ขยัน ทุ่มเท ตั้งใจจริง และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ — โอกาสและช่องทางในการสร้างรายได้ก็ยังมีให้เห็นอยู่เช่นกันครับ
https://finance.yahoo.com/q/
ถ้าคุณเห็นว่าคนที่เข้
ทุกคนล้วนมองเห็นช่องทาง เห็นโอกาส ก็เข้ามาทำกัน นี่คือความเป็นจริงที่ต้องยอมรั
ภาพถ่ายมีขายก่อนเวกเตอร์หลายปี ปัจจุบันคนที่เพิ่งเข้าวงการได้ไม่นานถ่ายภาพขายก็ยังมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้ามันมีคุณภาพพอ มันมีคนซื้ออยู่แล้ว สื่ออื่น ๆ ก็เช่นกัน เวกเตอร์ วีดีโอ เสียง มาทีหลัง และในอนาคตเมื่อโลกเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน ไมโคสต๊อก อาจจะมีแนวทางใหม่ ๆ สื่อรูปแบบใหม่ ๆ ตามมา คนที่ใช้ภาพไม่ถูกลิขสิทธิ์จะถูกหว่านล้อมมาใช้ภาพที่ถูกต้อง บริษัทใหม่ ๆ ทั่วโลกที่เกิดขึ้น ยิ่งเศราฐกิจแย่ จะยิ่งหันมาใช้ภาพราคาถูกกันมาก มีอยู่ 2 ทาง ว่าคุณจะทำเป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริม แค่นั้น
เมื่อถึงจุดนึง มันจะเปลี่ยนแปลง ผมเคยบอกไปว่า stock มันจะเปลี่ยนทุก ๆ 3-5 ปีเป็นเรื่องปกติขององค์
Keep Fighting คร้าบบบบบบบบบบ
บทความ : รัชพล ยรรยงค์เดชา (ขุนพล)