อาจจะเป็นธรรมเนียมประเพณีไปแล้วสำหรับการตั้ง เป้าหมายปีใหม่ บางคนยังไม่หมดปีก็เห็นตั้งเป้าตั้งแต่ 2 เดือนสุดท้ายของปีกันเลยทีเดียว แล้วไฟมันก็มอดไหม้ตั้งแต่ยังไม่หมดเดือนมกราคม เป็นแบบนี้กันหรือเปล่า 55
บางทีเราเอาแต่มอง “ผลลัพธ์” มากเกินไป ประมาณว่า แหงนมองเป้าหมายทีไร ท้อใจทุกที แต่อาจดีกว่า ถ้าเรากลับมามองที่ “วิธีการ” ที่จะไปให้ถึง
- อยากลดน้ำหนัก เริ่มออกกำลังกายไม่พอ ต้องออกกำลังให้สม่ำเสมอ
- อยากมีทักษะใหม่ๆ เริ่มฝึกยังไม่เชี่ยวชาญ ต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอถึงจะเก่ง
แค่เริ่ม อาจไม่พอ มันจะสำเร็จได้ ต้องมีความสม่ำเสมอในการลงมือทำด้วย ก้าวแรก เป็นจุด start ที่ดี แต่ถ้าจะเอาให้ถึงเส้นชัย มันต้องก้าวสม่ำเสมอ นั่นแหละคือ “วิธีการ” ที่ทำให้เข้าใกล้เป้าหมาย
หยิบเรื่องใกล้ตัวมาเล่าให้ฟัง
ช่วงที่ผมเริ่มเขียนหนังสือ เล่ม 2 เมื่อดูจากสารบัญที่ตัวเองร่างมาแล้ว รู้สึกท้อใจพอสมควร ในหัวมันจินตนาการไปหลายอย่างว่า เมื่อไหร่จะเสร็จ มันจะมีสักกี่หน้า ไหนจะงานอื่นที่ต้องทำ เขียนไม่พอ ต้องหารูปภาพมาแปะอีก หลายคนเมื่อตั้งเป้าแล้วก็จะคิดแบบนี้ มันเลยท้อ ท้อแล้วก็ไม่ทำ
เรามักจะคิดให้มันยากเกินกว่าความเป็นจริงเสมอ ซึ่งจริงๆมัน Simple มาก ก็แค่ลงมือเขียนบรรทัดแรก เขียนทุกวัน วันละ1 ย่อหน้า มันก็กลายเป็น 1 หัวข้อ หลายหัวข้อก็กลายเป็น 1 บท เมื่อจุด check point มีการขีดฆ่าไปเรื่อย ๆ เราก็จะยิ่งมีกำลังใจทำต่อเนื่อง เพราะมันใกล้เป้าหมายแล้ว และสุดท้ายมันก็เสร็จ นี่เป็นตัวอย่างใกล้ตัวง่าย ๆ ในการทำอะไรให้สม่ำเสมอครับ
การทำอะไรให้สม่ำเสมอควรเริ่มให้ง่ายเข้าไว้
ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยแผนการที่ซับซ้อนมากเกินไป ต้องเตรียมนั่น เตรียมนี่ ท่าเยอะ ท่ายาก เต็มไปหมด คุณก็จะไม่ได้เริ่ม และมันก็จะเป็นเป้าหมายที่ถูกบูชาอยู่แบบนั้น ไม่มีวันเอื้อมถึง
เช่น คุณอยากจะฝึกฝนกราฟิกให้เชี่ยวชาญ แล้วคุณก็ฝึกไม่ต่อเนื่อง ล้มเลิกกลางคัน ก็เพราะเราไปคิดถึงแต่ว่า เมื่อไหร่จะเก่ง วิธีไหนที่จะทำให้เก่งเร็วที่สุด คุณจะคิดแต่เรื่องพวกนี้จนไม่ได้เอาเวลามาฝึกฝนนั่นเอง แต่กลับกัน ซึ่งคนที่ฝึกจนเก่ง จะมองแค่วิธีการในปัจจุบันที่ตัวเองทำได้เท่านั้นว่า จะหาเวลาฝึกช่วงไหนของแต่ละวัน วันละกี่ชั่วโมง และทำอย่างไรที่จะหาสล๊อตเวลามาฝึกทุกวันต่างหาก เพราะฉะนั้นการทำให้ดีใน ระหว่างทาง อาจจะสำคัญกว่า ผลลัพธ์ที่ปลายทาง ก็ได้